จู่ๆ มายกไปเฉย


สวัสดีคะ ชื่อกนิษฐา จะเรียกว่า “หม่าม๊า” ก็ได้นะคะ เพราะคิดว่าเด็กอายุคงไล่ๆ กับลูกชายทั้ง2 ของหม่าม๊า ชีวิตและประสบการณ์หม่าม๊า เรียกได้ว่าต้องผจญภัยตั้งแต่เล็กๆ เลยคะ ได้มีโอกาสได้แบ่งปันกำลังใจ รู้สึกเป็นเกียรติมาก

จะขอเริ่มตั้งแต่จำความได้เลยนะคะ โตขึ้นมาพอรู้เรื่องอยู่ชั้นประถม เพิ่งได้รู้ว่าไม่มีพ่อ เพราะพ่อเสียไปตั้งแต่พ.ศ. 2514 ตอนนั้นอายุแค่ 2 ขวบ เรามีกัน 3 คนพี่น้องค่ะ พอรู้ว่าไม่มีพ่อก็แค่งงๆ พ่อหน้าตาเป็นอย่างไร แม่ก็ชี้ให้ดูรูป พวกเราก็ดู แล้วก็สวัสดีรูป ตามประสาเด็กๆ พวกเราไม่รู้สึกว่ามีปมด้อยเลยแม้แต่น้อย

แม่ทำงานที่ร้านขายเสื้อผ้าเด็กนำเข้าจากต่างประเทศ พวกเราได้พักชั้นบนของร้าน และช่วยเจ้าของร้านทำงานทุกอย่าง เราได้กินอิ่ม นอนหลับสบาย ได้เรียนหนังสือ จนกระทั่งวันหนึ่ง มีคนงานใหม่เข้ามาและสร้องคอทองคำเขาหาย และเขาบอกว่าแม่เป็นคนเอาไป เพราะมีลูก 3 คน

แม่ทำงานที่ร้านนี้ตั้งแต่สาวๆ มีหน้าที่ทำบัญชี เก็บเงิน เป็นเวลาเกือบ 40  ปี แม่สอนเสมอว่าเราต้องซื่อสัตย์ อดทน และรู้จักบุญคุณ

เหตุการณ์วันนั้นแม่เดินตาแดงก่ำมา แล้วบอกให้พวกเราเก็บของจะต้องย้ายออกทันที เรา 3 พี่น้องยืนงงแต่ก็รีบช่วยแม่ จำได้ว่าเกือบจะเย็นมากแล้ว พวกเรา 4 คนเดินมาที่ถนนราชดำเนิน มารอรถเมล์สาย 39 เพื่อจะนั่งไปหาลุงที่บ้านเช่าซอยราชครู และทันใดนั้นก็ได้มีขบวนเสด็จของในหลวง ร๙ ผ่านมา แม่รีบบอกให้พวกเรานั่งลงและก้มลงกราบในหลวง หม่าม๊านั่งติดกับแม่ ได้ยินเสียงแม่พูดว่า ขอให้ท่านคุ้มครองลูกๆให้มีที่อยู่ มีงานมีเงินด้วย ลูกไม่ได้ขโมย ลูกจะตั้งใจทำดี

พวกเราได้อยู่บ้านเช่าสภาพแวดล้อมไม่ดีนักต่างจากที่ร้านราวฟ้ากับเหว วันรุ่งขึ้นหลังจากที่แม่รับพวกเรากลับจากโรงเรียนแล้ว เรานั่งล้อมวงทานข้าวกันแล้วแม่ก็บอกว่าพวกเราจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันนี้ และแบ่งหน้าที่กันทำงานบ้าน หม่าม๊าได้รับหน้าที่รองน้ำ หิ้วน้ำมาใส่ตุ่มในบ้าน เพราะไม่มีก๊อกน้ำในบ้าน ต้องไปต่อคิวรองน้ำ ครั้งแรกจำได้ดี นั่งรองน้ำพอน้ำใกล้เต็ม ก็มีคนที่เค้าอยู่ห้องเช่ามาก่อน เดินมาเทน้ำใส่ถังตัวเองแล้วเดินไป เป็นแบบนี้อยู่ 3-4 รอบ ไม่กล้าพูด กลัวมาก แต่ก็อดทน และพยายามหาวิธี เพราะมิฉะนั้นหม่าม๊าจะต้องมารองน้ำตอนมืดๆ ยุ่งก็เยอะ ง่วงก็ง่วง แม่บอกให้อดทน อย่าไปพูดไม่ดีกับเขา เดี๋ยวเขาก็จะละอายไปเอง

ผ่านไป 1 อาทิตย์ คนที่แย่งน้ำเรา ก็มาถามเราว่าไม่โกรธหรือ เราตอบว่าโกรธสิ มากด้วย แล้วทำไมไม่ด่า ไม่ตอบโต้เค้า หม่าม๊าตอบไปว่า กลัวคะ ไม่กล้า เพิ่งมาอยู่ใหม่คะ (ในใจกลัวเค้ามาก ตัวสั่นไปหมด เพราะพวกเค้าชอบหาเรื่องทะเลาะกัน ตบตีกันและพูดจาหยาบคายมาก ) แล้วเค้าก็ตอบสั้นๆ ว่ารู้ก็ดีแล้ว พอน้ำเต็มถัง เค้าก็มาหยิบถังเราหิ้วไป ในใจคิดว่าไม่น่าตอบเค้าเลย ทีนี้ยกไปทั้งถัง เงินแม่ก็ไม่มีถ้าเอาถังเราไปอีกจะทำยังไง ได้แต่ยืนร้องไห้ตัวสั่น มองตามหลังเค้าไป เค้าไปหยุดที่หน้าห้องเช่าของพวกเราแล้วก็ตะโกนเรียกว่า มึงมานี่ ชื่ออะไร กรูชื่อ....... หม่าม๊าก็ตอบด้วยเสียงสั่นๆ เบาๆ ว่า ชื่อหน่อยคะ เค้าบอกว่าหิ้วน้ำมาให้ ยกเข้าไปเองเดี๋ยวอีกถังเต็มแล้วจะหิ้วมาให้อีก หม่าม๊าดีใจที่ไม่เกิดเรื่องแล้วรีบขอบคุณและยกมือไหว้ รีบเข้าบ้านไปเล่าให้แม่และพี่กับน้องฟัง ทุกคนบอกดี พวกเราจะได้มีเพื่อน และแม่บอกว่านี่คือความอดทน อดกลั้น และใช้ความสุภาพแก้ปัญหา เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มของครอบครัวเรา และเป็นคืนแรกใน 1 อาทิตย์ที่ย้ายมาได้นอนกันตั้งแต่หัวค่ำและหลับกันอย่างสบายใจ และเค้าคนนั้นก็เป็นเพื่อนคนแรกของหม่าม๊า และคอยช่วยบอกว่าแนะนำในเรื่องต่างๆ อีกมากมาย

เหตุการณ์และประสบการณ์แรกที่ห้องเช่า นี้ ทำให้หม่าม๊ารู้ว่า การอดทน อดกลั้น อย่างสุภาพ จะเป็นเกราะป้องกันตัวเราและสิ่งที่เราได้รับกลับมาคือความสุภาพ มิตรภาพและโอกาส

เรื่องนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ดิ้นรนของครอบครัวหม่าม๊า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องนี้จะเติมกำลังใจและเพิ่มพลังให้ใครอีกหลายๆคนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

ขอบคุณที่รับฟังหม่าม๊า

กนิษฐา

'กิจกรรม : บริจาคเรื่องเรา เร้าพลังน้อง' บริจาคประสบการณ์ชีวิตของคุณสร้างแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจเด็กๆ ส่งมาได้ที่ farmsookicecream@gmail.com ขอบคุณการแบ่งปันทุกๆ เรื่องราว

บทความที่ได้รับความนิยม

สันทนาการ