ตอบคำถามจากรายการ แฉ


ที่คุณมดดำบอกว่าต้องช่วยตัวเองก่อน แล้วค่อยช่วยคนอื่น?
ผมเห็นด้วยครับ เพราะชีวิตคนเรามีหลายด้าน สิ่งที่ผมทำ ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นการช่วยตัวเอง ช่วยทำให้ชีวิตผมมีความสุข ได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น ชีวิตและลมหายใจมีความหมายมากขึ้นในทุกวัน คำว่าตัวเราเองสำหรับผม มันมี กาย-ใจ รู้วิธีหาเงินดูแลกายให้สะดวกสบาย ก็ต้องรู้วิธีดูแลใจให้สุขสบายด้วย ความตั้งใจหนึ่งที่ไปออกรายการ ก็เพื่อที่จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนว่า เราดูแลตัวเองไปพร้อมกับดูแลคนรอบข้างได้นะ

แล้วอยู่ได้อย่างไร?
ผมมองฟาร์มสุขไอศกรีมเป็นธุรกิจครับ แต่เป็นธุรกิจที่กระจายโอกาสไปยังคนที่เข้าถึงโอกาสได้ยาก ในที่นี้คือเด็กที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ เด็กมีความสามารถทำงานได้แต่ยังมีโอกาสไปถึงเด็กๆ น้อย เพราะขั้นตอนยุ่งยาก เหนื่อย และ ต้นทุนสูง ธุรกิจแข่งขันกันที่การประหยัดต้นทุน การทำธุรกิจแบบนี้จึงยังมีไม่มาก จะว่าไปถ้ามองตัวเงินคือได้ไม่คุ้มเสีย สรุปคือ ผมอยู่ได้จากรายได้ขายไอติมด้วย เพียงแต่ได้น้อย ดังนั้นผมจึงรับทำงานอื่นๆ เสริมไปด้วย อาทิ เป็นวิทยากรบรรยายเรื่องความสุขในการทำงานเพื่อสังคม เรื่องความสัมพันธุ์ เรื่องธุรกิจเพื่อสังคม รวมถึง งานทำ content บน social media และงานอื่นๆ ที่ไม่กินเวลาทำงานให้ฟาร์มสุขไอศกรีมครับ

เสียดายไหมที่รายได้ลดลง?
สารภาพตามตรงว่าเสียดายครับ และ บางครั้งก็กังวลในอนาคตบ้างเหมือนกัน ผมก็อยากมีชีวิตที่มั่นคงสุขสบายเหมือนคนอื่น แต่เมื่อผมถามตัวเองทีไรก็พบว่าทุกวันนี้ก็สุขสบายมากกว่าเดิมเสียอีก(สบายใจมั้งครับ) ความรู้สึกหวั่นไหวเมื่อนึกถึงอนาคตก็มักจะถูกแทนที่ด้วยความเชื่อมั่นว่าเราอาจไม่รวย แต่เราไม่อดตายแน่นอน เพราะการทำงานในปัจจุบันมันให้มากกว่าทักษะการหารายได้ และเชื่อว่าหากเราทำสิ่งที่ดี คิดดี พูดดี เราก็จะดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต

ดูเหมือนลังเลไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำหรือเปล่า?
ผมเข้าใจเอาเอง(ไม่รู้ว่าถูกไหม)ว่ารูปแบบรายการเป็นบันเทิงดูสนุกมีสาระ ซึ่งพิธีกรก็เก๊งเก่งทำเรื่องเครียดให้สนุกได้จริงๆ ^^ และเพราะส่วนหนึ่งผมก็เชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำ นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นในตัวคนรอบข้าวและเพื่อนใน fb ที่ตามอ่านว่าต้องเข้าใจในสิ่งที่ผมทำเช่นกัน(เพราะเป็นเพื่อนทาง fb กันมาหลายปี) เลยทำให้สบายใจพลอยสนุกไปด้วย

เด็กออกไปแล้วทำไอติมขายหรือเปล่า?
ที่ผมสอนเขาทำไอติม เพราะผมเชื่อว่างานมันสามารถสอนให้เขาได้เห็นคุณค่าว่าตัวเองมีความสามารถ (ผมจะไม่ได้ให้ทำงานเฉยๆ จะมีกระบวนการพูดคุยแลกเปลี่ยนให้เขาพิจารณาตัวเอง แล้วแสดงความคิดเห็นครับ) พอเขาเกิดรู้ด้วยตัวเอง(ตระหนักรู้)ว่ามีคุณค่า ผมก็หวังว่ามันจะติดตัวเขาไปครับ ส่วนเรื่องจะทำไอติมขายไหม ผมก็สอนวิธีคิดไป แล้วก็แนะให้คิดไตร่ตรองก่อนลงมือทำว่ามันคุ้มไหมกับทำเลหรือวิธีที่จะไปขาย (ยิ่งถ้าเป็นเงินที่ให้เปล่าผมยิ่งจริงจังเพราะไม่อยากให้ติดนิสัยว่าเงินได้ฟรีจนไม่เห็นค่า) ผมคิดว่าความยั่งยืนเกิดจากตรงนี้ อย่างน้อยไปทำงานที่ไหนก็จะได้เป็นคนมีคุณภาพ ถ้าเห็นคุณค่าตัวเองแล้วก็น่าจะเห็นคุณค่าในงานได้ไม่ยาก

หาซื้อได้ที่ http://farmsookicecream.blogspot.com/p/4-1.html?m=1

บทความที่ได้รับความนิยม

สันทนาการ